รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ GI
http://www.udontham.ac.th/index.php?option=com
ได้รวบรวมรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบGI
ไว้ว่า กลุ่มสืบสวนสอบสวน (Group
Investigation : GI) กลุ่มสืบสวนสอบสวน GI เป็นการเรียนแบบร่วมมือร่วมใจ
ที่เน้นบรรยากาศการทำงานร่วมกันอย่างเป็นประชาธิปไตย โดยให้ความสำคัญกับประสบการณ์
ความสามารถ และความต้องการของผู้เรียน เมื่อมีการเรียนแบบ Group Investigation ครูผู้สอนจะแบ่งผู้เรียนออกเป็นกลุ่มย่อย
กลุ่มละ 5 – 6 คน
หรือน้อยกว่านี้ แต่ละกลุ่มจะวางแผนกันเองว่าจะศึกษาหัวข้อใด
และจะศึกษาอย่างไร
สมาชิกแต่ละคนหรือสมาชิก แต่ละคู่ในกลุ่มจะเลือกหัวข้อย่อย และเลือกวิธีแสดงหาคำตอบในเรื่องนั้น ๆ ด้วยตนเอง
หลังจากนั้นสมาชิกแต่ละคนหรือแต่ละคู่จะรายงานความก้าวหน้า
และผลการทำงานในกลุ่มของตนเองทราบ
กลุ่มจะอภิปรายเกี่ยวกับการรายงานของสมาชิก และจัดทำรายงานของกลุ่มให้เพื่อนทั้งชั้นฟัง
ขั้นตอนสำคัญในการจัดกิจกรรมมี 6 ขั้นตอน
ครูผู้สอนต้องพยายามปรับขั้นตอนทั้ง 6 นี้
ให้เหมาะสมกับผู้เรียน ทั้งในด้านพื้นฐาน อายุ ความสามารถ และเวลาที่มีอยู่ดำเนินการ
ดังนี้
1) ขั้น Identifying the
Topic and Organizing Pupils Groups
– ครูผู้สอนเสนอปัญหาแก่นักเรียนทั้งชั้น
แล้วให้นักเรียนช่วยกันเสนอ
สิ่งที่ตนอยากรู้เกี่ยวกับปัญหานี้
– นักเรียนปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับเรื่องที่ตนเองสนใจ และเสนอหัวข้อให้แก่สมาชิกในชั้นทราบ
ทั้งชั้นช่วยกันกำหนดหัวข้อที่นักเรียนทั้งชั้นสนใจ
– นักเรียนจัดกลุ่มเพื่อศึกษาเพียง
1 หัวข้อ
2) ขั้น Planning the
Investigation in Groups ครูผู้สอนและนักเรียนวางแผนร่วมกันเกี่ยวกับกระบวนการดำเนินงาน
ภาระที่ต้องทำ และเป้าหมายของงานในแต่ละหัวข้อตามปัญหาที่เลือก เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนในขั้นตอนที่ 2 ได้ผล ครูผู้สอนอาจใช้คำถาม
ดังนี้
– ปัญหาที่กลุ่มเลือกทำคืออะไร
– สมาชิกในกลุ่มได้แก่ใคร
– กลุ่มต้องการศึกษาค้นคว้าอะไร
– แหล่งความรู้ที่จะศึกษาคืออะไร
– จะแบ่งงานกันอย่างไร
3) ขั้น Carrying Out the Investigation ขั้นนี้เป็นขั้นที่นักเรียนใช้เวลาที่นานที่สุด
นักเรียนดำเนินงานตามแผนการที่วางไว้ในขั้นที่
2 กิจกรรมและทักษะต่างๆ
ที่นักเรียนต้องศึกษา
ควรมาจากแหล่งข้อมูลทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน ครูผู้สอนให้ความช่วยเหลือกับกลุ่มตามความต้องการของกลุ่ม
และคอยตักเตือนพฤติกรรมที่มีปัญหา
เมื่อแต่ละคนหรือแต่ละคู่ทำเสร็จแล้วจะนำเสนอข้อมูลกับกลุ่มของตนเพื่อให้สมาชิกได้อภิปราย
และหาข้อสรุปในแต่ละข้อ
4) ขั้น Preparing Final
Report นักเรียนแต่ละกลุ่มรวบรวมข้อมูลที่สมาชิก
ในแต่ละกลุ่มตนได้จัดทำ ช่วยกันแก้ไขแล้วสรุปเป็นรายงายของกลุ่ม เพื่อนำเสนอต่อนักเรียนทั้งชั้น
สมาชิกช่วยกันเตรียมการเสนอรายงานให้น่าสนใจและมีประสิทธิภาพ
เพื่อให้การนำเสนอรายงานของกลุ่มย่อยมีประสิทธิภาพ
ครูผู้สอนควรแนะนำนักเรียนให้เตรียมพร้อมเกี่ยวกับ
– การเน้นสาระสำคัญของการค้นคว้า
– การบอกแหล่งความรู้หรือวิธีการที่กลุ่มศึกษา
– เปิดโอกาสให้มีการซักถาม
– พยายามให้นักเรียนในชั้นมีกิจกรรมร่วมด้วยไม่ควรให้นั่งฟังนานๆ
– ให้ทุกคนในกลุ่มย่อยมีส่วนช่วยในการนำเสนอผลงาน
– คำนึงถึงอุปกรณ์
และวัสดุที่จำเป็นต้องใช้ในการนำเสนอผลงาน
5) ขั้น Present the Final
Report นักเรียนแต่ละกลุ่มเสนอผลงานในกลุ่ม
ของตน
ให้สมาชิกในชั้นเรียนทราบตามที่เตรียมไว้ในขั้นที่ 4 ควรให้นักเรียนในชั้นมีกิจกรรมร่วมด้วย เช่น
การถามปัญหา การทำกิจกรรมที่ผู้รายงานกำหนดให้ทำ
6) ขั้น Evaluating
Achievement ครูผู้สอนและนักเรียนประเมินผลการรายงานกลุ่มย่อย และประเมินงานรวมของทั้งชั้น
การประเมินนี้รวมถึงการประเมินเป็นรายบุคคลด้วย
ซึ่งสิ่งที่ควรประเมินได้แก่
– ความสามารถในการคิดระดับสูง
– วิธีการที่ใช้ในการศึกษา
– การประยุกต์ใช้ความรู้
– การใช้หลักฐานอ้างอิง
– วิธีการที่ใช้ในการสรุปข้อมูล
ครูผู้สอนควรมีการประเมินผลด้านจิตพิสัย
เช่น ความรู้สึกต่อเรื่องที่เรียน
งานที่ทำ แรงจูงใจ และเจตคติที่มีต่อครูผู้สอน
วิธีการที่ใช้ในการประเมิน ควรเป็นการประเมินแบบสะสม
โดยดูวิธีการทำงานของนักเรียนแต่ละคนตั้งแต่เริ่มจนจบโครงการ
และควรมีการแจ้งผลการประเมินให้นักเรียนทราบเป็นระยะ ๆ
นักเรียนควรได้รับ feedback จากเพื่อนนักเรียนเละครูผู้สอน
การประเมินผลที่ใช้ ควรช่วยให้นักเรียนเกิดสัมฤทธิ์ผลด้านเนื้อหาและกระบวนการ
และช่วยพัฒนาความสามารถในการวางแผนการศึกษาเรื่องต่างๆ ที่จะมีอนาคตได้
ทิศนา
แขมมณี (2548) ได้กล่าวไว้ว่า “ G.I. ” คือ “ Group Investigation ” รูปแบบนี้เป็นรูปแบบที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนช่วยกันไปสืบค้นข้อมูลมาใช้ในการเรียนรู้ร่วมกัน
โดยดำเนินการเป็นขั้นตอน ดังนี้
1
จัดผู้เรียนเข้ากลุ่มคละความสามารถ ( เก่ง-กลาง-อ่อน ) กลุ่มละ 4 คน
2
กลุ่มย่อยศึกษาเนื้อหาสาระร่วมกัน โดย
ก.
แบ่งเนื้อหาออกเป็นหัวข้อย่อย ๆ แล้วแบ่งกันไปศึกษาหาข้อมูลหรือคำตอบ
ข.
ในการเลือกเนื้อหา ควรให้ผู้เรียนอ่อนเป็นผู้เลือกก่อน
3
สมาชิกแต่ละคนไปศึกษาหาข้อมูล /คำตอบมาให้กลุ่ม กลุ่มอภิปรายร่วมกัน
และสรุปผลการศึกษา
4
กลุ่มเสนอผลงานของกลุ่มต่อชั้นเรียน
http://www.budmgt.com/budman/bm01/learner.html ได้รวบรวมรูปแบบการเรียนการสอนแบบGI ไว้ว่า GI (Group Investigation) พัฒนาโดย Sharan และคณะ
เป็นรูปแบบการเรียนแบบร่วมมือที่มีความซับซ้อนและกว้างมาก ปรัชญาของรูปแบบ GI ก็คือต้องการปลูกฝังการร่วมมือกันอย่างมีประชาธิปไตย
มีการกระจายภาระงานและสิทธิในการแสดงความคิดเห็นที่เท่าเทียมกันของสมาชิกในกลุ่ม GI มีการกระตุ้นบทบาทที่แตกต่างกันทั้งภายในกลุ่มและระหว่างกลุ่ม
แนวคิดในการจัดการเรียนการสอน
1.
นักเรียนแต่ละคนจะได้แสดงความสามารถของตน ในการแสวงหาความรู้ (หรือในการทำงาน)
2.
นักเรียนแต่ละคน ต้องถ่ายทอดความรู้หรือวิธีการทำงานให้เพื่อนนักเรียนเข้าใจด้วย
3.
ทุกคนต้องร่วมแสดงความคิดเห็น อภิปรายซักถามจนเข้าใจในทุกเรื่อง(หรือทุกงาน)
4.
ทุกคนต้องร่วมมือกันสรุปความเข้าใจที่ได้ (สูตรหรือความสัมพันธ์หรือผลงาน)
นำส่งอาจารย์เพียง 1 ฉบับเท่านั้น
5.
เหมาะกับการสอนความรู้ที่สามารถแยกเป็นอิสระได้เป็นส่วนๆ หรือแยกทำได้หลายวิธี
หรือการทบทวนเรื่องใดที่แบ่งเป็นเรื่องย่อยๆ ได้ หรือการทำงานที่แยกออกเป็นชิ้นๆ
ได้
GI มีองค์ประกอบอยู่ด้วยกัน 6 ประการ คือ
1.
การเลือกหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา (Topic
Selection) นักเรียนเลือกหัวข้อที่เฉพาะเจาะจงของปัญหาที่เลือก
แล้วกลุ่มจะแบ่งภาระงานออกเป็นงานย่อยๆ ที่มีสมาชิก 2-5 คนร่วมกันทำงาน
2.
การวางแผนร่วมมือกันในการทำงาน (Cooperative
Planning) ครูและนักเรียนวางแผนร่วมกันในวิธีดำเนินการ ภาระงานที่ทำ
และเป้าหมายของงานในแต่ละหัวข้อย่อยตามปัญหาที่เลือก
3.
การดำเนินงานตามแผนการที่วางไว้ (Implementation)
นักเรียนดำเนินงานตามแผนการที่วางไว้ในขั้นที่ 2
กิจกรรมและทักษะต่างๆ ที่นักเรียนจะต้องศึกษาควรมาจากแหล่งข้อมูลทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน
ครูจะให้คำปรึกษากับกลุ่มพร้อมกับติดตามความก้าวหน้าในการทำงานของนักเรียนและช่วยเหลือนักเรียนเมื่อเขาต้องการความช่วยเหลือ
4.
การวิเคราะห์และสังเคราะห์งานที่ทำ (Analysis and
Synthesis) นักเรียนวิเคราะห์และประเมินข้อมูลที่เขารวบรวมได้ในขั้นที่
3 และวางแผนหรือลงข้อสรุปในรูปแบบที่น่าสนใจเพื่อนำเสนอต่อชั้นเรียน
5.
การนำเสนอผลงาน (Presentation of Final Report) กลุ่มนำเสนอผลงานตามหัวข้อเรื่องที่เลือก
ครูต้องพยายามให้นักเรียนทุกคนได้มีส่วนร่วมขณะที่มีการนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนเพื่อเป็นการขยายความคิดของตัวนักเรียนเองให้กว้างไกล
โดยเฉพาะในหัวข้อเรื่องที่กลุ่มไม่ได้ศึกษา
ครูจะทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานในระหว่างการนำเสนอผลงาน
6.
การประเมินผล (Evaluation) ครูและนักเรียนจะร่วมกันประเมินผลงานที่ถูกนำเสนอพร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นที่มีต่อผลงานทุกชิ้น
การประเมินผลอาจรวมทั้งการประเมินเป็นรายบุคคลและเป็นกลุ่ม
GI เป็นการเรียนแบบร่วมมือที่มอบหมายความรับผิดชอบอย่างสูงให้กับนักเรียน
ในการที่จะบ่งชี้ว่าเรียนอะไรและเรียนอย่างไร ในการรวบรวมข้อมูล
วิเคราะห์และตีความหมายของสิ่งที่ศึกษาโดยเน้นการสื่อความหมายและการแลกเปลี่ยนความคิดเป็นของกันและกันในการทำงาน
ขั้นตอนการจัดการเรียนการสอน
แบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอนใหญ่ๆ ดังนี้
1.การทบทวนและชี้แจง
(5-10 นาที)
1.1
ครูและนักเรียนทบทวนความรู้เดิม หรือทักษะพื้นฐานที่จำเป็นที่ต้องทราบหรือสามารถจัดทำเป็นมาก่อน
1.2
ครูบอกจุดประสงค์ของการเรียนรู้ในคาบการสอนนี้
1.3
ครูอธิบายขั้นตอนของการปฏิบัติงานและวิธีการต่างๆ ของการเรียนแบบ GI
2.การมอบหมายงานและปฏิบัติงาน
(10-15 นาที)
2.1
ครูจัดเตรียมใบงาน โดยแยกออกเป็น 4 ส่วน หรือ 4 วิธีตามความเหมาะสม
(จัดแบ่งงานง่าย-ยาก) มอบให้แต่ละกลุ่มเหมือนกัน
2.2
ภายในกลุ่มจัดแบ่งงานตามความถนัด ความสามารถ (อ่อน-เก่ง)
2.3
แต่ละคนทำตามใบงานที่ได้รับมอบหมาย ให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด
3.สรุปผลงาน
(15-20 นาที)
3.1
แต่ละคนนำผลงานของตนเสนอต่อเพื่อนๆ ในกลุ่มตามลำดับ 1-4
3.2
อธิบายลักษณะงานที่ได้รับ การดำเนินงาน จนถึงสรุปที่ได้ (หรือผลงานที่ แล้วเสร็จ)
3.3
เพื่อนๆ สามารถร่วมอภิปรายหรือซักถาม แนวความคิด แนวการแก้ปัญหาหรือ
เสนอความคิดเห็นอื่นๆ ได้ จนทุกคนเข้าใจแจ่มชัดในทุกงานครบถ้วน
3.4
จัดทำเป็นรายงานร่วมกันหรือผลงานร่วมกันส่ง 1 ชุด
4.
การประเมินผล ทำได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับเวลาที่เหลือ เช่น
4.1
ให้นักเรียนนำผลงานมาเสนอหน้าชั้นเรียนหรือบนบอร์ด แล้วครูผู้สอนประเมิน
หรือตั้งกรรมการนักเรียนมาช่วยประเมินผลงานของกลุ่มต่างๆ (นอกเวลาเรียน)
4.2
ครูเลือกนักเรียนคนใดก็ได้ในแต่ละกลุ่มมารายงานผลการทำงานทั้งหมด
ทุกคนต้องพร้อมที่จะรายงานทั้งหมดได้
4.3
จากคะแนนที่ได้ ครูชมเชย หรือให้รางวัล หรือเก็บสะสมคะแนนไว้ สำหรับการจัดหา Super Team ประจำสัปดาห์ต่อไป
สรุป
กลุ่มสืบสวนสอบสวน GI เป็นการเรียนแบบร่วมมือร่วมใจ ที่เน้นบรรยากาศการทำงานร่วมกันอย่างเป็นประชาธิปไตย โดยให้ความสำคัญกับประสบการณ์ ความสามารถ และความต้องการของผู้เรียน เมื่อมีการเรียนแบบ Group Investigation ครูผู้สอนจะแบ่งผู้เรียนออกเป็นกลุ่มย่อย กลุ่มละ 5 – 6 คน หรือน้อยกว่านี้ แต่ละกลุ่มจะวางแผนกันเองว่าจะศึกษาหัวข้อใด และจะศึกษาอย่างไร สมาชิกแต่ละคนหรือสมาชิก แต่ละคู่ในกลุ่มจะเลือกหัวข้อย่อย และเลือกวิธีแสดงหาคำตอบในเรื่องนั้น ๆ ด้วยตนเอง หลังจากนั้นสมาชิกแต่ละคนหรือแต่ละคู่จะรายงานความก้าวหน้า และผลการทำงานในกลุ่มของตนเองทราบ กลุ่มจะอภิปรายเกี่ยวกับการรายงานของสมาชิก และจัดทำรายงานของกลุ่มให้เพื่อนทั้งชั้นฟัง ขั้นตอนสำคัญในการจัดกิจกรรมมี 6 ขั้นตอน ครูผู้สอนต้องพยายามปรับขั้นตอนทั้ง 6 นี้ ให้เหมาะสมกับผู้เรียน ทั้งในด้านพื้นฐาน อายุ ความสามารถ และเวลาที่มีอยู่ดำเนินการ
ที่มา
http://www.udontham.ac.th/index.php?option=com . วิธีการเรียนการสอนของรูปแบบ จี.ไอ. (G.I.).เข้าถึงเมื่อ20 สิงหาคม 2558
ทิศนา แขมมณี . (2548). ศาสตร์การสอน. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพมหานคร : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
http://www.budmgt.com/budman/bm01/learner.html . รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบGI.เข้าถึงเมื่อ 20 สิงหาคม 2558.